การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) คือวิธีการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ โดยการวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเงิน รวมถึงปัจจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยระบุว่าสินทรัพย์นั้นมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง หรือมี มูลค่าสูงเกินจริง ซึ่งเป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อหรือขายอย่างมีข้อมูล
ซึ่งแตกต่างจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เน้นการเคลื่อนไหวของราคาและรูปแบบกราฟ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะเน้นที่มูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์นั้น
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมักเกี่ยวข้องกับการประเมินรายงานทางการเงิน ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมหภาค แนวโน้มของอุตสาหกรรม โมเดลประเมินมูลค่า และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและจุลภาคที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในตลาด ตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ยและผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจจุลภาค เช่น กำไรของบริษัทและแนวโน้มในอุตสาหกรรม ช่วยให้นักลงทุนประเมินมูลค่าของสินทรัพย์รายตัวได้แม่นยำยิ่งขึ้น
เป้าหมายของการวิเคราะห์นี้คือการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ แล้วเปรียบเทียบกับราคาตลาด หากราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง อาจเป็นสัญญาณของโอกาสในการซื้อ ในทางกลับกัน หากราคาสูงเกินมูลค่าพื้นฐาน อาจบ่งบอกถึงการมีมูลค่าสูงเกินจริง
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสามารถนำไปใช้กับตลาดการเงินหลากหลายประเภท เพื่อระบุแนวโน้มระยะยาวและโอกาสในการลงทุน นักเทรดมักใช้ควบคู่กับ ข้อมูลแนวโน้มตลาดและมุมมองเศรษฐกิจล่าสุด เพื่อประกอบการตัดสินใจ
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก ได้แก่ การวิเคราะห์เชิงปริมาณและการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ โดยการผสมผสานทั้งสองแนวทางจะช่วยให้เข้าใจมูลค่าของสินทรัพย์ได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
แนวทางนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถวัดผลได้ เช่น อัตราส่วนทางการเงินและสถิติเศรษฐกิจมหภาค นักเทรดจะใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้เพื่อประเมินความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท หรือสุขภาพของเศรษฐกิจโดยรวม
ตัวอย่างตัวชี้วัดสำคัญ:
การวิเคราะห์เชิงปริมาณยังรวมถึงการศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น อัตราการเติบโตของ GDP, เงินเฟ้อ และแนวโน้มการจ้างงาน
การวิเคราะห์เชิงคุณภาพมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยที่ไม่สามารถวัดเป็นตัวเลขได้ เช่น คุณภาพของผู้บริหาร ชื่อเสียงของแบรนด์ และตำแหน่งทางการแข่งขันในอุตสาหกรรม
ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา:
การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมจะช่วยให้นักลงทุนสามารถมองเห็นโอกาสการเติบโตระยะยาว โดยเฉพาะในภาคส่วนที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น เทคโนโลยีหรือพลังงานหมุนเวียน
องค์ประกอบหลักหลายประการของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสามารถวัดค่าได้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงดัชนีเศรษฐกิจ การวิเคราะห์อุตสาหกรรม และการวิเคราะห์เฉพาะบริษัท
ดัชนีเศรษฐกิจคือมาตรวัดทางสถิติที่สะท้อนถึงสุขภาพและแนวโน้มโดยรวมของเศรษฐกิจ พวกเขาให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และช่วยให้นักวิเคราะห์เข้าใจบริบททางเศรษฐกิจที่บริษัทต่าง ๆ ดำเนินงานอยู่ ดัชนีเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการคาดการณ์แนวโน้มตลาดและประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่มีต่อราคาสินทรัพย์
ตัวอย่างของดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่:
การติดตามดัชนีเศรษฐกิจเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์วัฏจักรเศรษฐกิจและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม ซึ่งการวิเคราะห์ลักษณะนี้มักนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาด Forex.
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมคือการประเมินภาพรวมของอุตสาหกรรมหรือภาคธุรกิจที่บริษัทดำเนินงานอยู่ โดยช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสภาพแวดล้อมทางการแข่งขัน ระบุแนวโน้มการเติบโต และประเมินปัจจัยด้านกฎระเบียบหรือเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทมักได้รับอิทธิพลจากแนวโน้มและสุขภาพของอุตสาหกรรมนั้นโดยตรง
ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญบางประการ ได้แก่:
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมช่วยให้นักลงทุนสามารถระบุภาคส่วนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง หรืออุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญความท้าทายได้อย่างแม่นยำ.
ในขณะที่การวิเคราะห์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมให้ภาพในระดับมหภาคและกึ่งมหภาค การวิเคราะห์เฉพาะบริษัท (Company-Specific Analysis) จะมุ่งเน้นไปที่รายละเอียดระดับจุลภาคของแต่ละบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจตำแหน่งของบริษัทภายในอุตสาหกรรม และความสามารถในการใช้ทรัพยากรเพื่อสร้างมูลค่า
องค์ประกอบสำคัญของการวิเคราะห์เฉพาะบริษัท ได้แก่:
การวิเคราะห์งบการเงินถือเป็นรากฐานของการประเมินบริษัท:
ภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพและแนวทางธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จในระยะยาว การวิเคราะห์ประวัติของทีมผู้บริหาร วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และกระบวนการตัดสินใจ จะช่วยเปิดเผยถึงศักยภาพของบริษัทในการรับมือกับความท้าทายของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้าใจจุดแข็งเฉพาะตัวของบริษัท เช่น การเป็นที่รู้จักของแบรนด์ เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ หรือการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยประเมินความสามารถของบริษัทในการรักษาความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว นักวิเคราะห์จะประเมินว่าบริษัทมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืนซึ่งทำให้แตกต่างจากคู่แข่งหรือไม่
การพิจารณาการลงทุนของบริษัทในด้านการวิจัยและพัฒนา สินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และกลยุทธ์การขยายตลาด เป็นสิ่งสำคัญในการคาดการณ์การเติบโตในอนาคต บริษัทที่มีการนำนวัตกรรมมาใช้อย่างต่อเนื่องและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้มักมีความพร้อมในการใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ได้ดีกว่า
การระบุปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ระดับหนี้สินที่สูง ความผันผวนของตลาด หรือความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินด้านลบของการลงทุนได้อย่างรอบคอบ การประเมินความเสี่ยงอย่างครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูลครบถ้วน
การวิเคราะห์งบการเงินเป็นองค์ประกอบสำคัญของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยเน้นการตรวจสอบเอกสารทางการเงินของบริษัทอย่างละเอียดเพื่อประเมินสุขภาพทางการเงินโดยรวม ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
งบการเงินของบริษัทประกอบด้วยหลายส่วน การทำความเข้าใจแต่ละส่วนอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
งบกำไรขาดทุน (หรือที่เรียกว่างบแสดงรายได้) แสดงรายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไรของบริษัทในช่วงเวลาที่กำหนด โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้:
การวิเคราะห์แนวโน้มของรายได้และค่าใช้จ่ายสามารถช่วยระบุรูปแบบการเติบโต ความสามารถในการบริหารต้นทุน และความสามารถในการทำกำไรโดยรวมได้ หากกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มักเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อการลงทุน
งบดุลเป็นเอกสารทางการเงินที่แสดงภาพรวมสถานะทางการเงินของบริษัท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง โดยระบุรายการทรัพย์สิน หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น องค์ประกอบหลักของงบดุล ได้แก่:
นักลงทุนสามารถประเมินความมั่นคงทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัทได้จากการเปรียบเทียบทรัพย์สินกับหนี้สิน งบดุลที่แข็งแกร่งมักแสดงถึงคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดี และระดับหนี้ที่สามารถบริหารจัดการได้
งบกระแสเงินสดเป็นรายงานที่แสดงการไหลเข้าและไหลออกของเงินสดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยแสดงให้เห็นว่าบริษัทสร้างและใช้เงินสดอย่างไร องค์ประกอบหลัก ได้แก่:
การวิเคราะห์กระแสเงินสดสามารถช่วยประเมินสภาพคล่องของบริษัท รวมถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจ จ่ายเงินปันผล หรือขยายกิจการได้อย่างต่อเนื่อง กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานที่เป็นบวกและสม่ำเสมอมักบ่งบอกถึงสถานะทางการเงินที่มั่นคง
การวิเคราะห์อัตราส่วนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินดิบให้กลายเป็นตัวชี้วัดที่มีความหมาย ซึ่งช่วยให้สามารถประเมินประสิทธิภาพของบริษัทในด้านต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยอัตราส่วนที่สำคัญมีดังนี้:
การเข้าใจและใช้การวิเคราะห์อัตราส่วนช่วยให้นักลงทุนประเมินสุขภาพทางการเงินของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
เทคนิคการประเมินมูลค่ามีเป้าหมายเพื่อประมาณ “มูลค่าที่แท้จริง” ของสินทรัพย์ (Intrinsic Value) ซึ่งช่วยให้นักเทรดและนักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ว่าสินทรัพย์นั้นมีราคาสูงเกินไป (Overvalued) หรือต่ำกว่าความเป็นจริง (Undervalued) เมื่อเทียบกับราคาตลาด
อัตราส่วน P/E คำนวณโดยนำ ราคาตลาดของหุ้นต่อหนึ่งหน่วย มา หารด้วยกำไรต่อหุ้น (EPS) เพื่อแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยินดีจ่ายกี่บาทต่อกำไร 1 บาทของบริษัท
เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในการวิเคราะห์ความเหมาะสมของราคาหุ้น
รูปแบบต่าง ๆ ของอัตราส่วน P/E:
การวิเคราะห์แบบ DCF คือการประเมินมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคตที่สินทรัพย์จะสามารถสร้างได้ โดยทำการ “ลดค่า” กระแสเงินสดเหล่านั้นกลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบันด้วยอัตราคิดลดที่เหมาะสม ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้:
การวิเคราะห์ DCF เป็นเครื่องมือที่ละเอียดและเน้นการประเมินมูลค่าในเชิงอนาคต โดยอิงจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจริงของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีความอ่อนไหวต่อสมมุติฐาน เช่น อัตราการเติบโต และอัตราคิดลด — การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้มูลค่าที่ประเมินได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
DDM เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในกรณีของบริษัทที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยจะคำนวณมูลค่าปัจจุบันของเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต โดยตั้งสมมุติฐานว่าเงินปันผลจะเติบโตในอัตราคงที่
รูปแบบที่พบมากที่สุดของ DDM คือโมเดลการเติบโตของกอร์ดอน (Gordon Growth Model) ซึ่งคำนวณโดยนำเงินปันผลของปีถัดไป หารด้วยส่วนต่างระหว่างอัตราคิดลดกับอัตราการเติบโตของเงินปันผล:
โมเดลนี้เหมาะกับบริษัทที่มีความมั่นคง และมีการจ่ายเงินปันผลเป็นประจำ รวมถึงสามารถคาดการณ์อัตราการเติบโตของเงินปันผลได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม DDM ไม่เหมาะสำหรับบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลไม่แน่นอน หรือบริษัทที่เลือกนำกำไรกลับมาลงทุนใหม่แทนการจ่ายปันผล
นอกจากวิธีการประเมินมูลค่าแบบ P/E และ DCF แล้ว ยังมีเทคนิคอื่น ๆ ที่ช่วยวิเคราะห์ว่าหุ้นของบริษัทนั้นมีมูลค่าสูงเกินไปหรือถูกเกินไป ดังนี้
โดยการเชี่ยวชาญทั้งการวิเคราะห์งบการเงินและเทคนิคการประเมินมูลค่าเหล่านี้ นักลงทุนจะสามารถมองเห็นมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะเน้นการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะมุ่งเน้นที่การเคลื่อนไหวของราคาและรูปแบบต่าง ๆ บนกราฟ นักเทรดจำนวนมากมักใช้ทั้งสองวิธีร่วมกันเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่สมดุล
ตัวอย่างเช่น หลังจากใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อคัดเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งแล้ว เทรดเดอร์อาจใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อหาจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม โดยอ้างอิงจากแนวโน้มราคาและปริมาณการซื้อขาย.
นักเทรดคนหนึ่งกำลังประเมินคู่สกุลเงิน EUR/USD โดยเพื่อพิจารณาว่าควรซื้อหรือขาย เขาได้วิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายประการ ดังนี้:
จากปัจจัยเหล่านี้ นักเทรดสรุปว่า ดอลลาร์สหรัฐน่าจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร เขาจึงตัดสินใจเปิดสถานะขาย (Short) คู่ EUR/USD โดยตั้ง จุดหยุดขาดทุน (Stop-Loss) ไว้ที่ 1.1150
เมื่อเวลาผ่านไป ราคาคู่นี้ลดลงไปที่ 1.0820 ทำให้คำสั่งปิดทำกำไร (Take-Profit) ถูกกระตุ้น ส่งผลให้การเทรดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ.
แม้ว่าหลักพื้นฐานของสินทรัพย์จะแข็งแกร่ง แต่ตลาดก็สามารถเคลื่อนไหวอย่างไม่คาดคิดได้ การวางกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องเงินทุนของคุณ
กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่:
กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถรักษาเสถียรภาพของพอร์ต และเพิ่มความมั่นใจแม้ในสภาวะตลาดที่ผันผวน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินโดยอิงจากข้อมูลจริงและสภาพเศรษฐกิจ การฝึกฝนและใช้แนวทางนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาจังหวะลงทุนที่มีศักยภาพ และตัดสินใจอย่างมีข้อมูลรองรับ
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานถือเป็นรากฐานของกลยุทธ์การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือสกุลเงินก็ตาม
ผสานเทคนิคเหล่านี้เข้ากับแผนการเทรดของคุณ เพื่อเข้าใจพฤติกรรมของตลาดได้ดีขึ้น และยกระดับผลการลงทุนในระยะยาว
เทรดกับ Ultima Markets
Ultima Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Trading Platform) ที่ให้คุณเข้าถึงตราสาร CFD มากกว่า 250 รายการ ครอบคลุม Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี และหุ้น พร้อมรับประกันค่าสเปรดที่แคบและการดำเนินคำสั่งที่รวดเร็ว
จนถึงปัจจุบัน เราให้บริการลูกค้าจากกว่า 172 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ด้วยระบบการซื้อขายที่มีเสถียรภาพและบริการที่เชื่อถือได้
ในปี 2024 Ultima Markets ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติหลายรายการ ได้แก่
Ultima Markets ยังเป็นโบรกเกอร์ CFD รายแรกที่เข้าร่วมข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) ตอกย้ำพันธกิจในการส่งเสริมบริการทางการเงินอย่างมีจริยธรรม และมีส่วนร่วมต่อความยั่งยืนในระดับโลก
เรายังเป็นสมาชิกของ The Financial Commission ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับนานาชาติที่ทำหน้าที่ในการระงับข้อพิพาทในตลาด Forex และ CFD
ลูกค้าทุกท่านของ Ultima Markets ได้รับความคุ้มครองภายใต้ประกันภัยของ Willis Towers Watson (WTW) บริษัทนายหน้าประกันภัยระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1828 โดยให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบัญชี
เปิดบัญชีกับ Ultima Markets วันนี้ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการซื้อขายดัชนี CFD อย่างมั่นใจ
เริ่มต้นหรือขยายความรู้ด้านการเทรดของคุณในทุกระดับด้วยคำศัพท์และคำนิยามในอุตสาหกรรมการเงินที่หาที่ไหนไม่ได้
ระบบกระจายศูนย์ที่ใช้ อัลกอริธึมจัดการสภาพคล่องและการซื้อขาย โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาดกลางแบบดั้งเดิม
บันทึก
อัตราดอกเบี้ยรายปีที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายสำหรับเงินที่กู้ยืม หรือได้รับจากการลงทุน (ไม่รวมดอกเบี้ยทบต้น)
บันทึก
อัตราผลตอบแทนรายปีที่เทรดเดอร์ได้รับจากการลงทุน (รวมดอกเบี้ยทบต้น) ซึ่งแสดงถึงผลตอบแทนที่แท้จริง
บันทึก
วิธีการเข้ารหัสข้อมูลที่ใช้ กุญแจสองดอก (Public Key และ Private Key) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
บันทึก
The apportionment of premiums and discounts on forward exchange transactions that relate directly to deposit swap (interest arbitrage) deals, over the period of each deal.
บันทึก
การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบ เพียร์ทูเพียร์ (P2P) โดยตรง โดยไม่ต้องมีตัวกลาง ลดความเสี่ยงของคู่สัญญา
บันทึก
มูลค่าของการส่งออกของประเทศลบด้วยมูลค่าการนำเข้า
บันทึก
กราฟประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วยจุดสำคัญสี่จุด: ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดซึ่งเป็นแท่งแนวตั้ง, ราคาเปิดซึ่งแสดงด้วยเส้นแนวนอนทางซ้ายของแท่ง และราคาปิดซึ่งแสดงด้วยเส้นแนวนอนทางขวาของแท่ง
บันทึก
ราคาที่มีความสำคัญสูงซึ่งรวมอยู่ในโครงสร้างของ Barrier Option หากราคานี้ถูกแตะ เงื่อนไขของ Barrier Option จะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่กำหนดไว้
บันทึก
โครงสร้างของออปชันที่แตกต่างกัน (เช่น knock-in, knock-out, no touch, double-no-touch-DNT) ที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับราคาที่กำหนด ใน Barrier แบบ no-touch ผู้ซื้อออปชันจะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหากราคายังไม่แตะระดับที่กำหนดก่อนหมดอายุ สิ่งนี้กระตุ้นให้ผู้ขายออปชันพยายามผลักดันราคาให้แตะระดับดังกล่าว และทำให้ผู้ซื้อพยายามปกป้องระดับราคานั้น
บันทึก
สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงิน แสดงให้เห็นว่าสกุลเงินหลักมีมูลค่าเท่าใดเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สอง เช่น หากอัตรา USD/CHF เท่ากับ 1.6215 หมายความว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐมีค่าเท่ากับ 1.6215 ฟรังก์สวิส ในตลาดฟอเร็กซ์ ดอลลาร์สหรัฐมักถือเป็นสกุลเงินหลักสำหรับการเสนอราคา ยกเว้นสกุลเงินปอนด์อังกฤษ ยูโร และดอลลาร์ออสเตรเลีย
บันทึก
คู่สกุลเงิน GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ) ได้รับชื่อเล่นว่า "เคเบิล" เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเคยถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาผ่านสายเคเบิลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เมื่อเงินปอนด์อังกฤษเป็นสกุลเงินหลักของการค้าระหว่างประเทศ
บันทึก
ดอลลาร์แคนาดา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Loonie" หรือ "Funds"
บันทึก
การซื้อขายสกุลเงินที่ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศ โดยการขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เทรดเดอร์จะได้รับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของทั้งสองประเทศตราบใดที่การซื้อขายนี้ยังเปิดอยู่
บันทึก
ตัวชี้วัดรายเดือนที่สะท้อนความเชื่อมั่นทางธุรกิจของแคนาดา จัดทำโดย Richard Ivey Business School
บันทึก
กราฟที่แสดงช่วงการซื้อขายของวัน รวมถึงราคาเปิดและราคาปิด หากราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด ส่วนที่อยู่ระหว่างราคาจะถูกแรเงา หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด พื้นที่นั้นของกราฟจะไม่ถูกแรเงา
บันทึก
นักเก็งกำไรที่เปิดสถานะการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และปิดสถานะภายในวันเดียวกันก่อนตลาดปิด
บันทึก
การเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายในผลิตภัณฑ์เดียวกันภายในวันเดียว
บันทึก
คำที่ใช้เรียกการซื้อขายที่ดำเนินการในราคาตลาดปัจจุบัน ซึ่งเป็นการซื้อขายจริง ไม่ใช่คำสั่งซื้อที่รอดำเนินการ
บันทึก
บุคคลหรือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นคู่สัญญาในการซื้อขาย ดีลเลอร์จะเปิดสถานะซื้อหรือขายเองโดยหวังว่าจะได้กำไรจากส่วนต่างราคาหลังจากปิดสถานะในการซื้อขายครั้งต่อไป ในทางตรงกันข้าม โบรกเกอร์เป็นบุคคลหรือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือคอมมิชชั่น
บันทึก
ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของสัญญาการซื้อขาย
บันทึก
ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร
บันทึก
สถิติที่ออกโดยรัฐบาลเพื่อบ่งชี้ถึงการเติบโตและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ อัตราการจ้างงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีก เป็นต้น
บันทึก
คำสั่งซื้อหรือขายที่กำหนดราคาไว้และยังคงเปิดอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดวันซื้อขาย
บันทึก
เขตเวลาของนครนิวยอร์ก ซึ่งหมายถึงเวลามาตรฐานตะวันออกของสหรัฐฯ (Eastern Standard Time) หรือเวลาออมแสงตะวันออก (Eastern Daylight Time)
บันทึก
ชื่อเรียกของดัชนี Euronext 50
บันทึก
ระดับมูลค่า (ดอลลาร์) ของคำสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าคงทนและไม่คงทน รายงานนี้ให้รายละเอียดมากกว่ารายงานสินค้าคงทนที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกัน
บันทึก
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Bank) หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC - Federal Open Market Committee) ซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด
บันทึก
หมายถึงสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือประธานธนาคารกลางสาขาในระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ
บันทึก
หมายถึงการเสนอราคาที่ลงท้ายด้วย "00" เช่น 00-03 (1.2600-03) ซึ่งจะอ่านว่า "ฟิกเกอร์-สาม" หากมีการขายที่ 1.2600 เทรดเดอร์อาจกล่าวว่า "ตัวเลขถูกให้" หรือ "ตัวเลขถูกกระทบ"
บันทึก
เมื่อคำสั่งซื้อขายถูกดำเนินการจนเสร็จสมบูรณ์
บันทึก
กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา
บันทึก
กลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 8 ประเทศ ประกอบด้วยสมาชิก G7 และรัสเซีย
บันทึก
การเคลื่อนไหวของตลาดอย่างรวดเร็วซึ่งราคาข้ามผ่านหลายระดับราคาโดยไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้น ช่องว่างราคามักเกิดขึ้นหลังจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจหรือข่าวสำคัญ
บันทึก
การซื้อขายที่มีมูลค่ามากกว่าทุนที่ต้องถืออยู่ในบัญชีซื้อขาย ซึ่งแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์หรือเศษส่วน
บันทึก
ดัชนีของ 30 บริษัทชั้นนำ (ตามมูลค่าตลาด) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เยอรมนี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า DAX
บันทึก
ทุก ๆ 100 pips ในตลาด FX โดยเริ่มต้นที่ 000
บันทึก
นักนโยบายการเงินของประเทศที่เชื่อว่าจำเป็นต้องใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น (โดยทั่วไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือจำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว หรือทั้งสองอย่าง) จึงเรียกว่า “hawkish”
บันทึก
ตำแหน่งหรือชุดของตำแหน่งที่ช่วยลดความเสี่ยงของตำแหน่งหลักของคุณ
บันทึก
การขายในราคาซื้อ (bid) ปัจจุบันในตลาด
บันทึก
ชื่อที่ใช้เรียกดัชนีฮ่องกง (Hong Kong Hang Seng index)
บันทึก
มีปริมาณการซื้อขายในตลาดน้อย; การขาดสภาพคล่องมักจะสร้างสภาวะตลาดที่มีความผันผวน
บันทึก
IMM หรือ International Monetary Market เป็นส่วนหนึ่งของ Chicago Mercantile Exchange (CME) ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชันสำหรับสกุลเงินและอัตราดอกเบี้ย
บันทึก
สัญญาฟิวเจอร์สแบบดั้งเดิมที่อิงตามสกุลเงินหลักเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ฟิวเจอร์ส IMM ถูกซื้อขายบนพื้นของ Chicago Mercantile Exchange
บันทึก
8:00 น. - 15:00 น. ตามเวลา New York
บันทึก
คำย่อของ Dow Jones Industrial Average
บันทึก
วัดความรู้สึกของธุรกิจที่ให้บริการโดยตรงแก่ผู้บริโภค เช่น พนักงานเสิร์ฟ คนขับรถ และช่างทำผม การอ่านค่าที่สูงกว่า 50 โดยทั่วไปสื่อถึงการปรับปรุงทัศนคติ
บันทึก
วัดมูลค่ารวมของคำสั่งซื้อใหม่ที่วางกับผู้ผลิตเครื่องจักร เครื่องมือตัดเย็บนี้เป็นตัวชี้วัดความต้องการของบริษัทที่ผลิตเครื่องจักร ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าของการผลิตภาคอุตสาหกรรมในอนาคต ข้อมูลที่แข็งแกร่งโดยทั่วไปสื่อถึงการปรับปรุงในภาคการผลิตและเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขยายตัว
บันทึก
ชื่อสำหรับดัชนี NEKKEI
บันทึก
จำกัดการเทรดของคุณเมื่อเผชิญกับสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ในตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือช่วงราคาที่แคบมาก อาจเป็นการดีกว่าที่จะรออยู่ข้างสนามจนกว่าจะมีโอกาสที่ชัดเจน
บันทึก
ชื่อเล่นของคู่สกุลเงิน NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ดอลลาร์สหรัฐ)
บันทึก
กลยุทธ์ออปชันที่ต้องให้ผลิตภัณฑ์อ้างอิงมีการซื้อขายที่ราคาหนึ่งก่อนที่ออปชันที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้จะเริ่มทำงาน น็อคอินส์ถูกใช้เพื่อลดต้นทุนค่าพรีเมียมของออปชันและอาจกระตุ้นกิจกรรมป้องกันความเสี่ยงเมื่อออปชันถูกเปิดใช้งาน
บันทึก
ออปชันที่ทำให้สัญญาออปชันที่ซื้อมาก่อนหน้านี้เป็นโมฆะหากผลิตภัณฑ์อ้างอิงมีการซื้อขายที่ระดับราคาหนึ่ง เมื่อราคาน็อคเอาท์ถูกซื้อขาย ออปชันเดิมจะสิ้นสุดและอาจต้องยกเลิกการป้องกันความเสี่ยงที่ทำไว้
บันทึก
วันสุดท้ายที่คุณสามารถทำการซื้อขายผลิตภัณฑ์นั้นได้
บันทึก
เวลาสุดท้ายที่คุณสามารถทำการซื้อขายผลิตภัณฑ์นั้นได้
บันทึก
สถิติที่ถูกใช้เพื่อคาดการณ์กิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต
บันทึก
โซนราคาหรือราคาที่มีความสำคัญจากมุมมองทางเทคนิค หรืออิงจากคำสั่งซื้อ/ความสนใจในออปชันที่มีการรายงาน
บันทึก
เรียกอีกอย่างว่ามาร์จิ้น เป็นเปอร์เซ็นต์หรืออัตราส่วนที่ช่วยให้คุณสามารถเทรดได้มากกว่าทุนที่มีอยู่ เช่น เลเวอเรจ 100:1 หมายความว่าคุณสามารถเทรดมูลค่ารวมที่มากกว่าทุนในบัญชีของคุณถึง 100 เท่า
บันทึก
นักเทรดระยะยาวที่ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขาย ระยะเวลาการถือครองของการเทรดแบบมาโครอาจอยู่ระหว่าง 6 เดือนถึงหลายปี
บันทึก
เป็นตัวชี้วัดปริมาณการผลิตทั้งหมดของภาคการผลิตที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลนี้วัดเฉพาะ 13 หมวดหมู่ย่อยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง ซึ่งภาคการผลิตคิดเป็นประมาณ 80% ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด
บันทึก
คำร้องขอจากโบรกเกอร์หรือดีลเลอร์ให้ลูกค้าเพิ่มเงินทุนหรือหลักประกันเพิ่มเติมในตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามความคาดหมายของลูกค้า
บันทึก
ดีลเลอร์ที่เสนอราคาซื้อและราคาขายอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะสร้างตลาดสองด้านสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ
บันทึก
คำสั่งซื้อหรือขายตามราคาปัจจุบันของตลาด
บันทึก
ตัวย่อของดัชนี NASDAQ 100
บันทึก
จำนวนสกุลเงินที่ถูกซื้อหรือขายแต่ยังไม่ได้ถูกชดเชยด้วยธุรกรรมตรงข้าม
บันทึก
08:00 น. – 17:00 น. (เวลานิวยอร์ก)
บันทึก
ออปชันที่จ่ายจำนวนเงินคงที่ให้กับผู้ถือหากตลาดไม่แตะระดับ Barrier ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
บันทึก
สัญลักษณ์ของดัชนี NYSE Composite
บันทึก
ราคาที่ตลาดพร้อมจะขายผลิตภัณฑ์ ราคามักถูกเสนอเป็นสองด้าน คือ Bid/Offer ราคาขาย (Offer) เรียกอีกอย่างว่า Ask ซึ่งแสดงถึงราคาที่เทรดเดอร์สามารถซื้อสกุลเงินหลักได้ โดยสกุลเงินหลักจะแสดงทางซ้ายของคู่สกุลเงินตัวอย่างเช่น ในอัตราแลกเปลี่ยน USD/CHF 1.4527/32 ค่าเงินหลักคือ USD และราคา Ask คือ 1.4532 หมายความว่าคุณสามารถซื้อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ในราคา 1.4532 ฟรังก์สวิส
ในการซื้อขาย CFD ราคา Ask คือราคาที่เทรดเดอร์สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้ เช่น ในอัตรา UK OIL 111.13/111.16 ราคาสินค้า UK OIL และราคา Ask คือ £111.16 ต่อหน่วยของตลาดอ้างอิง
บันทึก
หากตลาดถูกกล่าวว่ากำลังถูกเสนอขาย หมายถึงมีแรงขายสูง หรือมีคำสั่งขายจำนวนมาก
บันทึก
การซื้อขายที่ใช้เพื่อลดหรือยกเลิกความเสี่ยงทางตลาดของสถานะที่เปิดอยู่
บันทึก
ความพยายามที่จะขายที่ราคาตลาดปัจจุบัน
บันทึก
การตั้งคำสั่งซื้อขายสองคำสั่ง หากคำสั่งหนึ่งถูกดำเนินการ คำสั่งที่เหลือจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
บันทึก
หมายถึงฝั่งเสนอขาย (Offer) ในการซื้อขายตลาด
บันทึก
การจับคู่สกุลเงินสองสกุลในการเสนอราคาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
บันทึก
การขายออกเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว
บันทึก
ตลาดที่เคลื่อนที่ในระยะทางไกลภายในระยะเวลาสั้น ๆ โดยมักจะเร่งความเร็วขึ้นจนมีลักษณะคล้ายครึ่งหนึ่งของพาราโบลา การเคลื่อนไหวแบบพาราโบลิกสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
บันทึก
เมื่อคำสั่งซื้อถูกดำเนินการเพียงบางส่วน แต่ยังไม่ครบจำนวนที่กำหนด
บันทึก
นโยบายที่ธนาคารกลางอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
บันทึก
สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ที่มีระยะเวลาหมดอายุตามรอบไตรมาส
บันทึก
ราคาตลาดที่ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ซึ่งโดยทั่วไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านข้อมูลเท่านั้น
บันทึก
การฟื้นตัวของราคาหลังจากช่วงที่ลดลง
บันทึก
สถานการณ์ที่ราคาซื้อขายอยู่ระหว่างระดับสูงสุดและต่ำสุดที่กำหนดไว้ โดยเคลื่อนไหวภายในขอบเขตนี้โดยไม่ทะลุออกไป
บันทึก
ราคาของสกุลเงินหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง มักใช้เพื่อการซื้อขาย
บันทึก
ธนาคารกลางของประเทศออสเตรเลีย
บันทึก
ธนาคารกลางของประเทศนิวซีแลนด์
บันทึก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
บันทึก
กลุ่มหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน
บันทึก
การเปิดสถานะขาย (Short Position) โดยคาดการณ์ว่าราคาตลาดจะลดลง
บันทึก
กระบวนการบันทึกธุรกรรมทางการค้าและกำหนดคู่สัญญาของแต่ละธุรกรรม การชำระบัญชีในการซื้อขายสกุลเงินอาจมีหรือไม่มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจริงก็ได้
บันทึก
สัญลักษณ์ของดัชนี Shanghai A Index
บันทึก
การเข้าควบคุมบริษัทโดยการซื้อหุ้นของบริษัทนั้น
บันทึก
กระบวนการศึกษากราฟและรูปแบบราคาย้อนหลังเพื่อหาแนวโน้มของการเคลื่อนไหวของราคาต่อไปในอนาคต
บันทึก
เทรดเดอร์ที่ตัดสินใจซื้อขายโดยอิงจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือกราฟราคา
บันทึก
ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีระยะเวลาชำระคืนใน 10 ปี เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี
บันทึก
สภาวะตลาดที่มีปริมาณซื้อขายต่ำ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่แน่นอนและผันผวนสูง
บันทึก
คำอธิบายสภาวะตลาดที่มีความรุนแรงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
บันทึก
ตัวชี้วัดค่าจ้างเฉลี่ยของพนักงานที่รวม/ไม่รวมโบนัส โดยวัดการเปลี่ยนแปลงแบบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
บันทึก
ตัวชี้วัดจำนวนผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหราชอาณาจักร ตัวเลขนี้มักต่ำกว่าข้อมูลอัตราการว่างงานทั่วไป เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่ว่างงานมีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการ
บันทึก
ตัวชี้วัดระดับราคาบ้านในสหราชอาณาจักร เพื่อบ่งชี้แนวโน้มในภาคอสังหาริมทรัพย์และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีนี้เป็นชุดข้อมูลรายเดือนที่ยาวนานที่สุดในบรรดาดัชนีอสังหาริมทรัพย์ของสหราชอาณาจักร และเผยแพร่โดยผู้ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร (Halifax Building Society/Bank of Scotland)
บันทึก
ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเดือนที่ผ่านมา
บันทึก
หรือที่เรียกว่าวันครบกำหนด เป็นวันที่คู่สัญญาทางการเงินตกลงที่จะชำระภาระผูกพันของตน เช่น การแลกเปลี่ยนการชำระเงิน สำหรับธุรกรรมเงินตราต่างประเทศแบบสปอต (Spot) วันที่มูลค่ามักเป็น สองวันทำการข้างหน้า
บันทึก
เงินทุนที่เทรดเดอร์ต้องถือไว้ในบัญชีเพื่อให้มีมาร์จิ้นเพียงพอสำหรับรองรับความผันผวนของตลาด
บันทึก
แสดงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความผันผวนในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยคำนวณจากความผันผวนโดยนัยของตัวเลือกดัชนี S&P 500 ที่หลากหลาย VIX เป็นมาตรวัดความเสี่ยงของตลาดที่ได้รับความนิยมและมักถูกเรียกว่า "ดัชนีความกลัวของนักลงทุน"
บันทึก
หมายถึงตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและสร้างโอกาสในการซื้อขายบ่อยครั้ง
บันทึก
รูปแบบกราฟที่แสดงช่วงราคาที่แคบลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยใน ลิ่มขาขึ้น (Ascending Wedge) ราคาสูงสุดมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งมักจบลงด้วยการทะลุแนวรับลง ใน ลิ่มขาลง (Descending Wedge) ราคาต่ำสุดลดลงในอัตราที่ช้าลง ซึ่งมักจบลงด้วยการทะลุแนวต้านขึ้น
บันทึก
ศัพท์สแลงที่ใช้เรียกตลาดที่มีความผันผวนสูง โดยราคามีการเคลื่อนไหวรุนแรงในทิศทางหนึ่งแล้วกลับทิศทางอย่างรวดเร็ว
บันทึก
ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าสำเร็จรูปที่ผู้ค้าปลีกต้องจ่าย ราคาขายส่งมักแสดงแรงกดดันเงินเฟ้อก่อนราคาสินค้าขายปลีก
บันทึก
คำสั่งซื้อขายแบบจำกัด (Limit Order) ที่ถูกตั้งไว้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ
บันทึก
ตัวย่อของ The Wall Street Journal หนังสือพิมพ์การเงินและธุรกิจชั้นนำของโลก
บันทึก
สัญลักษณ์ของดัชนีเงิน (Silver Index)
บันทึก
สัญลักษณ์ของดัชนีทองคำ (Gold Index)
บันทึก
สัญลักษณ์ของดัชนี AMEX Composite
บันทึก
เรียลเยเมน: สกุลเงินของประเทศเยเมน โดยแบ่งย่อยเป็น 100 ฟิล
บันทึก
ดูที่ YER
บันทึก
ดูที่ JPY
บันทึก
ผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งโดยทั่วไปจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
บันทึก
ดูที่ CNY
บันทึก
แรนด์ (Rand) – สกุลเงินของแอฟริกาใต้ แบ่งย่อยเป็น 100 เซนต์
บันทึก
แซมเบียน ควาชา (Zambian Kwacha) – สกุลเงินของแซมเบีย แบ่งย่อยเป็น 100 Ngwee
บันทึก
ดอลลาร์ซิมบับเว (Zimbabwe Dollar) – สกุลเงินของซิมบับเว แบ่งย่อยเป็น 100 เซนต์
บันทึก
ดูที่ ZMW
บันทึก
ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่วาดจุดสูงสุดและต่ำสุด โดยกรองสัญญาณรบกวนออกไป
บันทึก
ดูที่ ZWL
บันทึก
ยกเลิก
ยืนยัน